วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

วิ่ง 432,000 ก้าว

วิ่ง 432,000 ก้าว ชีวิตเปลี่ยน

        การวิ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีแล้ว การวิ่งยังทำให้สมองไวใจสงบและอายุยืนขึ้นด้วย มาประเมินประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการวิ่งด้วยคู่มือต่อไปนี้กันดีกว่า



วิ่ง 5,400 ก้าว สมองไวขึ้น

ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ชี้ว่า การวิ่งแค่ครึ่งชั่วโมงจะทำให้คุณตอบสนองได้เร็วขึ้น และยังช่วยพัฒนาทักษะด้านการใช้เหตุผลด้วย (การเล่นเวตไม่มีผลในเรื่องนี้เลย) แถมการวิ่งยังให้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องอีกต่างหาก เพราะการศึกษาในวารสาร Neurology ชี้ว่า คนที่วิ่งเป็นประจำ สมองจะใช้งานได้นานกว่า แต่ในคนที่ไม่ค่อยวิ่งโอกาสในการเป็นโรคอัลไซเมอร์จะสูงขึ้นกว่า 2 เท่า (วิ่ง 30 นาที)

วิ่ง 8,100 ก้าว  เผาผลาญไขมันตลอดวัน

นอกจากจะเผาผลาญแคลอรีขณะวิ่งแล้ว ร่างกายก็ยังเผาผลาญแคลอรีหลังการวิ่งได้มากขึ้นด้วย เพราะผลวิจัยจาก Human Performance Laboratory ชี้ว่า การวิ่ง 45 นาทีช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้นานถึง 14 ชั่วโมงนั่นแปลว่าไม่นับพลังงานที่หมดไปกับการวิ่ง ร่างกายก็ยังเผาผลาญได้อีกตั้งวันละ 190 กิโลแคลอรี (วิ่ง 45 นาที)

วิ่ง 27,000 ก้าว อารมณ์ดีขึ้น

การวิ่งถือเป็นวิธีที่ช่วยตัดวงจรความคิดในแง่ลบได้ดี เพราะจะบีบให้คุณจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะ วิคเตอร์ ทอมป์สัน นักจิตวิทยา บอกว่า การวิ่งเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง จะทำให้คุณสงบและรับมือกับความเครียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีขึ้น แถมผลวิจัยใน Journal of Psychosomatic Medicine ยังชี้ด้วยว่าถ้าเทียบกับคนที่กินยาอย่างเดียว ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ออกกำลังกายก็มีโอกาสหายมากกว่า (วิ่ง 30 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้ง)

วิ่ง 54,000 ก้าว ถนอมข้อต่อ

การวิ่งไม่ได้ทำให้ข้อต่อพังอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน เพราะผลวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดชี้ว่า การวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 ครั้ง ช่วยลดปัญหาเรื่องข้อต่อในช่วงบั้นปลายชีวิตได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องรออีก 20 ปี คุณถึงจะได้ประโยชน์จากการวิ่ง เพราะหลังจากวิ่งแค่ 1 สัปดาห์ กล้ามเนื้อของคุณก็จะทั้งแข็งแรงและกระชับขึ้น และนั่นก็จะช่วยป้องกันปัญหาเรื่องข้อต่อ (วิ่ง 60 นาที สัปดาห์ละ 5 ครั้ง)

วิ่ง 144,000 ก้าว ลดความดันเลือด

บทวิเคราะห์ผลวิจัยจำนวน 25 เรื่องซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Hypertension ชี้ว่าน้ำหนักตัวที่คุณลดได้ทุกๆ 1 กิโลกรัมจะทำให้ความดันเลือดลดลง 1/1 มิลลิเมตรปรอท ถ้าคุณวิ่ง 50 นาที สัปดห์ละ 4 ครั้ง คุณจะเผาผลาญได้ 7,700 แคลอรี (ปริมาณที่ทำให้น้ำหนักตัวลดลง 1 กิโลกรัม) ภายในเวลาแค่ 1 เดือน และนี่ก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่มีภาวะความดันเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองภาวะหัวใจวายเฉียบพลันและโรคไต (วิ่ง 50 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์)

วิ่ง 388,800 ก้าว เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

คุณไม่จำเป็นต้องเล่นเวตเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพราะถึงการสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อใหม่ๆ หลังอายุ 30 ปีขึ้นไปจะลดลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ในทุกๆ 10 ปี แต่การวิ่งสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 4 เดือน ก็ช่วยป้องกันการสูญเสียดังกล่าวได้ เพราะการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน The American Journal of Physiology ชี้ว่าเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มการสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อใหม่ๆ ได้ถึง 20 เปอร์เซ้นต์ (วิ่ง 45 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 4 เดือน)

วิ่ง 432,000 ก้าว ลดคอเลสเตอรอล


ในการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบผลของการออกกำลังกายประเภทต่างๆเป็นเวลา 10 สัปดาห์ พบว่าการวิ่งเป็นการออกกำลังกายประเภทที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (ไขมันอันตราย) ในกระแสเลือดได้มากที่สุด ขณะที่มาโยคลินิกชี้ว่า การวิ่งเป็นเวลา 2 เดือน ยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (ไขมันดี) ได้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ด้วย ถ้าระดับไขมันดีและไขมันเลวไม่สมดุลกันสักเท่าไร โอกาสในการเป็นโรคหัวใจก็จะสูงขึ้นถึง 2 เท่า นั่นก็เป็นเหตุผลที่คุณควรจะเริ่มวิ่งได้แล้ว (วิ่ง 60 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 10 สัปดาห์)

ขอบคุณข้อมูลดีๆ
http://healthmeplease.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87.html

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

10 สถานที่วิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในกรุงเทพฯ

        10 สถานที่วิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในกรุงเทพฯ

1.สวนลุมพินี

           สวนลุมพินี เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 ล้อมรอบด้วยถนนวิทยุ ถนนราชดำริ และซอยสารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่ที่นักออกกำลังกายมักจะไปวิ่งกันมาก เนื่องจากอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า "สวนลุมพินี" ซึ่งเป็นชื่อสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าในประเทศเนปาล แต่พระองค์เสด็จสวรรคตก่อนจึงไม่แล้วเสร็จ

2.สวนเบญจกิติ

          สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนรัชดาภิเษก มีพื้นที่ 430 ไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกมีพื้นที่ 130 ไร่ สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจัดให้เป็นสวนสาธารณะ เน้นสวนน้ำเป็นหลัก มีลานสุขภาพสำหรับคนชอบออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีลานแสดงกลางแจ้งเป็นลานแบบเปิด เ พื่อแสดงงานประเพณี ศิลปวัฒนธรรม การละเล่นต่างๆ ส่วนพื้นที่อีก 300 ไร่ จัดเป็นสวนป่า เป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ต่างๆ ในเมืองไทย รวมทั้งได้จำลองลักษณะทางธรรมชาติของแต่ละภาคที่แตกต่างกันไปให้ประชาชนได้ศึกษา ซึ่งสวนดังกล่าวกำลังจะดำเนินการสร้างต่อไป

3.สวนเบญจสิริ


        สวนเบญจสิริ ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท สร้างเพื่อน้อมเกล้าถวายในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษาในปี 2535 บริเวณกลางสวนตกแต่งเป็นสวนป่า มีสระน้ำ ศาลาพักผ่อน ลานอเนกประสงค์ ส่วนด้านหลังและด้านข้างเป็น สวนสุขภาพ สนามเด็กเล่นลานสเก็ต สนามบาสเกตบอล สนามตะกร้อ และสระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็กเล็ก

4.สวนหลวง ร.9


       สวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะ และสวนพฤษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีพื้นที่ทั้งหมด 500 ไร่ ภายในประกอบด้วย อาคารเทิดพระเกียรติ รวมเรื่องราวพระราชกรณียกิจ และสิ่งของเนื่องในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวนพฤกษศาสตร์ สวนรมณีย์ ตระพังแก้วเก็บน้ำฯลฯ ซึ่งมีสนามหญ้า และต้นไม้ร่มรื่น และบริเวณให้วิ่ง เปิดให้ประชาชนเข้าพักผ่อนหย่อนใจได้ทุกวัน

5.สวนสันติภาพ


        สวนสันติภาพ สวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย เป็นสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่นิยมเลือกมาวิ่งออกกำลังกาย การเดินทางสะดวกสบายอยู้ใกล้รถไฟฟ้า

6. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเกียกกาย


       สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเกียกกาย ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 และเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นันทนาการ การกีฬาแก่ประชาชนในพื้น

7.สวนเสรีไทย


       สวนเสรีไทย สวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มีพื้นที่ประมาณ 350 ไร่ มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่งได้แก่ อาคารเสรีไทยอนุสรณ์ สวนน้ำ สวนป่า ทำให้ที่นี่ร่มรื่นเหมาะแก่การวิ่งออกกกำลังกาย

8.สวนหลวงพระราม 8



       สวนหลวงพระราม 8 สวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ 50 ไร่ ตั้งอยู่ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี ที่ทางกรุงเทพมหานครดำเนินการก่อสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า สวนหลวงพระราม 8 ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งถือเป็นจุดชมทัศนียภาพที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง ภายในยังมี พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ขนาด 3 เท่าของพระองค์จริง สูงประมาณ 5.4 เมตร ประดิษฐานเป็นสิริมงคลแก่สวนแห่งนี้ด้วย 

9.สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)


       สวนรถไฟ เดิมเป็นสนามกอล์ฟรถไฟ จัดสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับกรุงเทพมหานคร และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและเพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวโรกาสที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา เป็นสถานที่ที่ครอบครัวนิยมมานั่งพักผ่อน ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพและวิ่งออกกำลังกาย ในช่วงที่ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจะสะพายกล้องมาถ่ายภาพประทับใจกันคับคั่ง

10. สวนรมณีนาถ


      สวนรมณีนาถ เคยเป็นเรือนจำกลางคลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวบนเกาะรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสร้างให้ออกมาตามอาคารสมัยนิยมแบบฝรั่ง ต่อมาจึงปรับเป็นสวนสาธารณะ

ขอบคุณข้อมูล
http://www.edtguide.com/health/445656/10-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF